ขอเชิญสมัครเข้าร่วมแข่งขัน สมุย ไอแลนด์ มาราธอน 2010

สายการบินบางกอกแอร์เวย์ส ร่วมกับการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย เทศบาลเมืองเกาะสมุย และสมาคมส่งเสริมการท่องเที่ยวเกาะสมุย จัดแข่งขัน “สมุย ไอแลนด์ มาราธอน 2010” ชิงถ้วยพระราชทานจากสมเด็จพระเทพฯ และ เงินรางวัลรวมกว่า 3 ล้านบาท ซึ่งนับว่าเป็นเงินรางวัลมากที่สุดในประวัติศาสตร์ของวงการน่องเหล็กไทย ซึ่งการแข่งขันนี้จะมีขึ้นในวันที่ 19 กันยายน 2553 

ม.ล. นันทิกา วรวรรณ รองผู้อำนวยการใหญ่ฝ่ายโฆษณาและประชาสัมพันธ์ สายการบินบางกอกแอร์เวย์ส กล่าวว่า “เป็นครั้งแรกที่บางกอกแอร์เวย์ส จัดการแข่งขันมาราธอนที่เกาะสมุยขึ้นและเรามีความซาบซึ้งในพระมหากรุณาธิคุณ ที่ได้รับพระราชทานถ้วยรางวัลจากสมเด็จพระเทพฯ โดยการจัดการแข่งขันในครั้งนี้ มีวัตถุประสงค์เพื่อส่งเสริมนโยบายของการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย ที่สนับสนุนให้คนไทยหันมาเที่ยวในประเทศ และดึงนักท่องเที่ยวในแถบภูมิภาคให้เดินทางเข้ามาท่องเที่ยวในประเทศไทยมาก ขึ้น โดยใช้เกาะสมุยเป็นจุดขาย เพราะได้ชื่อว่าเป็นเกาะที่สวยงามที่สุดแห่งหนึ่งของโลก มีทัศนียภาพอันงดงามเหมาะแก่การจัดการแข่งขัน รวมทั้งมีศักยภาพที่จะรองรับนักท่องเที่ยวจากทั่วโลก โดยบางกอกแอร์เวย์สเองมีเที่ยวบินตรงระหว่างกรุงเทพและเกาะสมุย 30 กว่าเที่ยวบินต่อวัน และยังเชื่อมโยงเส้นทางมาจากสิงคโปร์และฮ่องกงมาที่เกาะสมุย อีกวันละ 2 เที่ยวบิน ซึ่งในปีที่ผ่านมาทางสายการบินฯ ขนนักท่องเที่ยวเข้าสมุยได้กว่า 1.1 ล้านคน โดยคาดว่าการแข่งขัน “สมุย ไอแลนด์ มาราธอน 2010” ในวันที่ 19 กันยายนนี้ จะมีนักวิ่งเข้าร่วมกว่า 1,000 คน” 

พ.ต.อ. ศิโรธ เพียรสกุล อุปนายกกิติมศักดิ์ สมาคมกรีฑาแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ กล่าวว่า “การแข่งขันในครั้งนี้ ถือว่าเป็นการแข่งขันชิงถ้วยพระราชทานจากสมเด็จพระเทพฯ ที่มีเงินรางวัลรวมมากที่สุดในประวัติการณ์ และทางสมาคม และ ทางสมาคมกรีฑาอาเซียนได้รับรองการแข่งขัน เพื่อที่ให้การแข่งขันนี้เป็นการแข่งขันในระดับนานาชาติ” 

การแข่งขันแบ่งเป็น 4 ประเภท ได้แก่ 
ประเภทมาราธอน ระยะทาง 42.19 กม. แบ่งรุ่นการแข่งขันออกเป็น 9 รุ่น คือ รุ่นอายุ 18 - 29 ปี (ชาย-หญิง), รุ่นอายุ 30 - 39 ปี(ชาย-หญิง) , รุ่นอายุ 40 - 49 ปี(ชาย-หญิง) , รุ่นอายุ 50 - 59 ปี(ชาย) , รุ่นอายุ 50 ปี ขึ้นไป(หญิง) และรุ่นอายุ 60 ปีขึ้นไป(ชาย) 

ประเภทฮาล์ฟมาราธอน ระยะทาง 21.100 กม.แบ่งรุ่นการแข่งขันออกเป็น 10 รุ่น คือ รุ่นอายุ 16 - 19 ปี (ชาย-หญิง), รุ่นอายุ30 - 39 ปี(ชาย-หญิง) , รุ่นอายุ 40 - 49 ปี(ชาย-หญิง) , รุ่นอายุ 50 - 59 ปี(ชาย-หญิง) , และรุ่นอายุ 60 ปีขึ้นไป(ชาย-หญิง) 

ประเภทควอเตอร์มาราธอน ระยะทาง 10.550 กม.แบ่งรุ่นการแข่งขันออกเป็น 12 รุ่น คือ รุ่นอายุ 15 - 19 ปี (ชาย-หญิง) , รุ่นอายุ 20 - 29 ปี (ชาย-หญิง) , รุ่นอายุ 30 - 39 ปี (ชาย-หญิง) , รุ่นอายุ 40 - 49 ปี (ชาย-หญิง) , รุ่นอายุ 50 - 59 ปี (ชาย-หญิง) และรุ่นอายุ 60 ปี ขึ้นไป (ชาย-หญิง) 

และประเภทนักเรียน (สมัครฟรี) อายุ 12 – 14 ปี (ชาย-หญิง) ระยะทาง 2 กม. ซึ่งเป็นการเปิดโอกาสให้กับเฉพาะนักเรียนบนเกาะสมุย เกิดปี พ.ศ.2539-2541 โดยในวันสมัครจะต้องแสดงหลักฐานว่าเป็นนักเรียนของโรงเรียนบนเกาะสมุยเท่านั้น

สำหรับเส้นทางแข่งขัน จะเริ่มจากหน้าทอนวิ่งไปตามทางหลวงหมายเลข 4169 ผ่านสี่แยกบ้านลิปะใหญ่ สามแยกบ้านลิปะน้อย สามแยกบ้านสะเกศ ไปวนกลับตัวที่บ้านหัวถนน จากนั้นเลี้ยวซ้ายวิ่งเข้าทางหลวงหมายเลข 4170 ที่สามแยกบ้านหัวถนน ผ่านบ้านตลิ่งงาม และจะมาบรรจบที่ทางหลวงหมายเลข 4169 บริเวณสามแยกบ้านสะเกษ แล้วเลี้ยวซ้ายวิ่งตามเส้นทางผ่านบ้านลิปะน้อย บ้านลิปะใหญ่ และเข้าเส้นชัยที่หน้าทอน 

สำหรับผู้ที่สนใจสามารถสอบถามรายละเอียดและสมัครได้ที่ สำนักงานใหญ่สายการบินบางกอกแอร์เวย์ส ถนนวิภาวดีรังสิต โทร. 0 265 5678 ต่อ 5669 และ 8709, สำนักงานบางกอกแอร์เวย์ส สาขาหาดเฉวง เกาะสมุย โทร. 077 601 300, บริษัท เอ ทีม สปอร์ต แอนด์ คอมมูนิเคชั่น จำกัด โทรศัพท์ 0 2691 5804-8, สมาคมกรีฑาสมัครเล่นแห่งประเทศไทยฯ ศูนย์กีฬามหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ รังสิต โทรศัพท์ 0 2564 3322 และสมาคมกรีฑาสมัครเล่นแห่งประเทศไทยฯ โรงแรมโซลทวินทาวเวอร์ โทร. 0 2216 9817-9 ได้ตั้งแต่วันที่ 1 กรกฎาคมถึง 31 สิงหาคม 2553 

อัตราค่าสมัครมาราธอน 500 บาท ฮาล์ฟมาราธอน 400 บาทและควอเตอร์มาราธอน 300 บาท สมัครระหว่างวันที่ 1 – 17 กันยายน 2553 อัตราค่าสมัคร 700, 500 และ 300 บาท และสมัครวันที่ 18 กันยายน 2553 อัตราค่าสมัคร 800, 600 และ 300 บาทตามลำดับ โดยนักวิ่งที่สมัครในประเภทมาราธอนจะได้รับเสื้อที่ระลึก 1 ตัว หมวก 1 ใบ ส่วนนักวิ่งที่สมัครในประเภทฮาล์ฟมาราธอนและควอเตอร์มาราธอนจะได้รับเสื้อ ที่ระลึก 1 ตัว หรือคลิกเข้าไปดูรายละเอียดได้ที่ www.bangkokair.com/samui-island-marathon/

บรรยากาศงานมหกรรมอาหารและของดีเมืองสมุย

บรรยากาศของงานมหกรรมอาหารและของดีเมืองสมุย ปีนี้ชุ่มฉ่ำ ไปด้วยน้ำฝนที่โปรยปรายลงมา เก็บมาฝากสำหรับคนที่ไม่ได้มาเที่ยวกันน่ะค่ะ ก่อนงานเลิกจะเก็บมาฝากกันอีกจร้า ^^

ชวนเที่ยวงาน มหกรรมอาหารและของดีเกาะสมุย

เชิญชวนเที่ยวงาน มหกรรมอาหารและของดีเกาะสมุย ปีที่ 8 ประจำปี 2553  (SAMUI FOOD AND GOOD FESTIVAL 8th ) ขึ้นในระหว่างวันที่  18-22  สิงหาคม  2553    ณ    บริเวณท่าเทียบเรือหน้าทอน  โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อประชาสัมพันธ์และส่งเสริมการท่องเที่ยวเกาะสมุย  กระตุ้นและเชิญชวนให้ผู้ประกอบการจำหน่ายอาหารเกิดการพัฒนาคุณภาพอาหารให้ได้มาตรฐานการสุขาภิบาล  โดยมีกิจกรรมต่างๆ มากมาย
มาดูกันค่ะว่ามีอะไรดีบ้าง เริ่มด้วย ลางสาด

ของดีเมืองสมุย ส่วนใหญ่มักพบต้นลางสาด แถวบริเวณน้ำตกหินลาด และบริเวณภูเขา
ลางสาดเป็นผลไม้ที่ขึ้นชื่อของเกาะสมุย มีรสชาติหวาน กลิ่นหอม เมล็ดเล็ก
ผลโต เปลือกบางไม่มียาง ผลผลิตจะออกมากช่วงเดือน กรกฎาคม – ตุลาคม
การเก็บเกี่ยวลางสาดควรเก็บเมื่อสุกเต็มที่ สังเกตได้จากผิวจะมีสีเหลืองนวล
มีสีแดงจาง ๆ แซม แกะดูเนื้อใน เนื้อจะใส เมื่อรับประทานจะได้รสชาติหอมหวานอมเปรี้ยว
เป็นลักษณะเฉพาะและเป็นที่รู้จักดี ของลางสาดบ้านลิปะใหญ่
ต. อ่างทอง อ.เกาะสมุย จังหวัดสุราษฎร์ธานี

ประโยชน์ทางสมุนไพร

เปลือกผล มีสารโอเลอเรซิน สรรพคุณแก้ท้องร่วงและบรรเทาอาการปวดท้อง

เปลือกต้น มีรสฝาด ใช้รักษาโรคเกี่ยวกับลำไส้

เปลือกต้น มีรสขม ใช้เป็นยาถ่ายพยาธิ แก้ไข้

คุณค่าอาหารและสรรพคุณ

เนื้อลางสาด ประกอบไปด้วยคาร์โบไฮเดรต เส้นใย โปรตีน แคลเซียม ฟอสฟอรัส

 

เหล็ก วิตามินบี1 วิตามินบี2 และวิตามินซี เปลือกต้น ใช้รักษาโรคเกี่ยวกับลำไส้ แก้ไข้

เปลือกผล สามารถแก้อาการท้องร่วงท้องเดินได้ โดยการนำเปลือกมาหั่นแล้วนำ

 

ไปคั่วชงกับน้ำเดือด กินครั้งละครึ่งถ้วย เมล็ด นำมาฝนกับน้ำฝนให้ข้น ใช้เป็นยาหยอด

 

หู แก้อักเสบ หรือเป็นฝีในหู ใช้เป็นยาถ่ายพยาธิ รักษาเริมและงูสวัดได้

กาละแม

 กาละแมก็เ็ป็นอีกหนึ่งของดีเมืองเกาะสมุยด้วยเหมือนกัน ด้วยรสชาติที่อร่อย ไม่เหมือนที่อื่น ทั้งการหีบห่อ ซึ่งในการจัดงานมหกรรมอาหารและของดีเกาะสมุย ปีที่แล้ว ได้จัดให้มีการแข่งขันการกวนกาละแมกัน แม่้บ้านชุมชนต่าง ๆ ร่วมมือกันกวนกาละแม ด้วยความสนุกสนานเปี่ยมไปด้วยความสุข สร้างความสามัคคีให้แก่ชุมชน

วัฒนธรรมเกี่ยวกับสิ่งปลูกสร้าง และเป็นแหล่งท่องเที่ยว

พระใหญ่เกาะฟาน สร้างบนภูเขาของเกาะฟาน บริเวณโดยรอบชั้นล่าง มีกุฎิเสนาสนะสงฆ์ และมีร้านค้าของที่ระลึก ตั้งอยู่ที่บ้านปลายแหลม ตำบลบ่อผุด เป็นสถานที่สวยงาม รู้จักแพร่หลายไปทั่วโลก สถานที่แห่งนี้มีการจัดงานลอยกระทงเป็นประจำทุกปี ในวันขึ้น 15 ค่ำ เดือน 12
สนามบินเกาะสมุย (บางกอกแอร์แวย์) ตั้งอยู่ที่บ้านบางรักษ์ ตำบลบ่อผุด เป็นสนามบินที่สร้างขึ้นกลมกลืนกับธรรมชาติใช้วัสดุธรรมชาติ ในการปลูกสร้าง เช่น ต้นมะพร้าว มุงหลังคาจาก ปลูกไม้ดอกไม้ประดับเพื่อความร่มรื่นสวยงามชวนให้นั่งพักผ่อน เป็นสนามบินที่สวยงามติดอันดับต้นๆของโลกด้วย

อาหารประจำถิ่น เกาะสมุย 2

ยำสาหร่าย

เครื่องปรุง

1. สาหร่าย
2. น้ำพริกแห้ง
3. มะขามเปียก มะนาว หรือกะลิงปลิง
4. มะพร้าวคั่ว
5. ถั่วลิสงคั่ว
6. น้ำตาลปิ๊บ
7. กุ้งสดหรือว่าหอยแครง

วิธีทำ

1. นำสาหร่ายทะเลมาล้างให้สะอาด เก็บสะเก็ดหินและเศษหญ้าที่สกปรกออกให้หมดและล้างน้ำให้สะอาด ยกขึ้นใส่กระชอนให้สะเด็ดน้ำ
2. นำน้ำพริกแห้งลงไปในสาหร่าย ใส่น้ำมะขามเปียก น้ำมะนาว หรือกะลิงปลิงใส่ ใส่มะพร้าวคั่ว น้ำตาลปิ๊บลงไปให้พอดี คลุกให้เค้ากัน ชิมรสตามใจชอบ อาจใส่น้ำปลาเพิ่มเติมถ้าชอบรสเค็ม
3. ชิมรสได้ที่แล้วใส่ถั่วลิสงคั่ว และกุ้งสดหรือว่าหอยแครงลงไป คลุกให้เค้าที่ ชิมรสตามชอบก็จะได้ยำสาหร่ายตามต้องการค่ะ

เคยเจ

เครื่องปรุง

1. กะปิอย่างดี (เคย)
2. มะพร้าวแก่
3. กะลามะพร้าว

วิธีทำ

1. เคยเจมีวิธีทำ 2 อย่าง บางคนไม่ใส่มะพร้าวก็เอากะปิมาใส่กะลามะพร้าวปาดให้ติดกะลาบางๆ แล้วเอาไปย่างไฟถ่านอ่อน ย่างพอกะปิออกสีเหลืองมีกลิ่นหอมก็จะได้เคยเจตามต้องการ
2. อีกวิธี ถ้าใส่มะพร้าวขูดแก่ๆแต่ไม่สุกจัดเอามาตำกับกะปิ ตำเสร็จเอามาย่างกับกะลามะพร้าวแบบข้อ 1 ก็จะได้เคยเจใส่มะพร้าวตามต้องการ เคยเจใช้ทานกับข้าวมันมะพร้าว

อาหารประจำถิ่น เกาะสมุย

อาหารคาว

ข้าวมันมะพร้าว

เครื่องปรุง

1. กะทิสด
2. ข้าวสาร (ข้าวซ้อมมือก็ได้)
3. เกลือ

วิธีทำ

1. คั้นน้ำกะทิเอาเฉพาะหัวกะทิ หรือ กะทิข้นๆ
2. ล้างข้าวสารให้สะอาด ใส่น้ำกะทิลงไปพอประมาณโดยให้สูงกว่าข้าวสารประมาณข้อนิ้วมือ ใส่เกลือเล็กน้อย ตั้งไฟจนเดือดแล้วพยายามคนบ่อยๆ (ถ้าไม่คนจะไหม้ที่ก้นหม้อ) แล้วใช้ไฟอ่อนๆ ตั้งไฟเรื่อยๆ จนกว่าข้าวสารจะสุก

น้ำพริกแห้ง

เครื่องปรุง

1. กะปิ
2. พริกขี้หนูสวน
3. กุ้งแห้งหรือว่าปลาย่าง
4. กระเทียม

วิธีทำ

ตำพริกขี้หนูกับกระเทียม กุ้งแห้งให้ละเอียด ใส่กะปิลงไปพอสมควร ตำให้เข้ากันให้ดีก็จะได้น้ำพริกแห้งตามต้องการ (ถ้าให้ดีต้องย่างกะปิก่อนจะตำให้หอมก่อนและมีรสชาติดีกว่า ถ้าไม่มีกุ้งแห้งให้ใช้ปลาย่างแทนก็ได้อร่อยเช่นกันค่ะ)

ประเพณี รับ - ส่ง ตายาย

ทางภาคใต้มีประเพณีที่ยิ่งใหญ่อีกพิธีหนึ่งคือ พิธี"สารทเดือนสิบ" พิธีนี้ได้จัดอย่างยิ่งใหญ่ที่จังหวัดนครศรีธรรมราช ส่วนชาวภาคใต้ทั่วไป ได้จัดพิธีนี้เช่นกัน แต่เรียกว่า "งานทำบุญเดือนสิบ" ส่วนที่สมุยเรียกพิธีนี้ว่า "วันรับส่ง ตา - ยาย" ประเพณีสารทเดือนสิบ เป็นประเพณีที่ได้รับมาจากอินเดียเหมือนกับประเพณีอื่นๆอีกหลายๆอย่าง ที่ชาวภาคใต้รับมา ทั้งนี้เพราะชาวภาคใต้ติดต่อกับอินเดียมานานก่อนดินแดนส่วนอื่นของประเทศไทย วัฒนธรรมและอารยธรรมของอินเดียส่วนใหญ่จึงถ่ายทอดมายังภาคใต้เป็นแหล่งแรก โดยเฉพาะจังหวัดนครศรีธรรมราช

ชาวพุทธทางภาคใต้เชื่อว่า เมื่อได้ประกอบพิธีนี้แล้ว บรรพบุรุษ ซึ่งมี พ่อ แม่ ปู่ ย่า ตา ยาย ตลอดจนญาติๆที่ล่วงลับไปแล้ว จะได้รับส่วนบุญส่วนกุศล แม้ดวงวิญญาณ ตกทุกข์ได้ยากอยู่ในนรกขุมใดก็จะได้พ้นทุกข์ ที่มีความสุขอยู่แล้ว ก็จะได้รับสุขยิ่งๆขึ้นไป

วันแรมหนึ่งค่ำ เรียกว่า วันรับตา ยาย วันแรม 15 ค่ำ เรียกว่า วันส่ง ตา ยาย

วิธีจัดหมรับหรือสำรับชั้นแรกจะใช้ข้าวสารรองก้น ชั้นต่อไปใช้เครื่องปรุงอาหาร มีหอม กระเทียม พริก เกลือ น้ำตาล ฯลฯ ชั้นต่อไป จำพวกอาหารแห้ง เช่น ปลาเค็ม เนื้อเค็ม พีชผักที่เก็บไว้ได้นานๆ เช่น มะพร้าว ฟัก มัน อ้อย ข้าวโพด ตะไคร้ และของใช้ประจำวัน เช่น ไม้ขีดไฟ กะทะ ถ้วยชาม เข็ม ด้าย ตลอดจนของใช้ในเชี่ยนหมาก เช่นหมากพลู กานพลู การบูร พิมเสน ปูน ยาเส้น บุหรี่ ธูปเทียน ตลอดจน ยาสามัญประจำบ้าน ส่วนชั้นบนสุดถือว่าเป็นหัวใจของหมรับ คือ ขนม 5 อย่าง มีพอง ขนมลา ขนมกง (ไข่กง) ขนมดีซำ ขนมบ้า บางแห่งเพิ่มขนมลาลอยมัน(ขนมรังนก) เมื่อจัดอาหารสิ่งของลงในสำรับเรียบร้อย ก็จัดธงทิวรูปสามเหลี่ยมปักไว้ที่สำรับนั้นๆการจัดสำหรับจะจัดเป็นของครอบครัว หรือร่วมกันจัดเป็นของตระกูลต่างๆ

เฉพาะที่สมุยชาวบ้านจะทำสำรับดังกล่าวไปวัดทั้งสองวัน คือ วันแรม 1 ค่ำ ซึ่งเป็นวันรับ และวันแรม 15 ค่ำ เป็นวันส่ง โดยนำสำำรับไปถวายพระที่วัดซึ่งอยู่ใกล้ๆบ้าน สำรับที่นำไปจะนำไปตั้งไว้บนสถานที่ๆทางวัดจัดให้ สมัยก่อนเรียกว่า "หลาเปต" เจ้าหน้าที่จะนำสายสิญจน์ จากนั้นทั้งเด็กและผู้ใหญ่ ก็จะเข้าไปแย่งชิงอาหาร ขนม ผลไม้ ในสำรับบนหลาเปตเป็นที่สนุกสนาน ซึ่งเรียกว่า การชิงเปต บางแห่งจัดกิจกรรมพิเศษเพื่อความสนุกสนาน สมัยก่อนถือว่าผู้ใดนำอาหาร หรือ ผลไม้บนหลาเปตไปรับประทานจะเป็นมงคลแห่งชีวิต จะมีความสุขตลอดไป

พิธีรับ - ส่ง ตายาย ของชาวสมุยนิยมจัดในวันรับคือวันแรม 1 ค่ำ และวันส่งคือวันแรม 15 ค่ำ เฉพาะวันส่งจะมีลูกหลานญาติๆ ของตระกูลต่างๆทั้งที่อยู่ใกล้ ไกล จะชวนกันกลับบ้านเพื่อประกอบพิธีกันทั้งหมด ทุกวัดจะเนืองแน่นไปด้วยผู้คน ซึ่งเป็นวันเดือนแห่งการรวมญาติของชาวสมุย จะไม่มีวันเดือนใดที่ญาติพี่น้องมาชุมนุมพร้อมเพรียงกันเหมือนวันดังกล่าว

ตะวันลับฟ้า...เกาะสมุย

เรือสำราญที่ล่องมาจอด ใกล้ท่าเทียบเรือเกาะสมุย แล้วรับ ส่ง นักท่องเที่ยว ด้วยเรือเล็กเข้าฝั่งที่ท่าเทียบเรือหน้าทอน เพื่อให้นักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ มาเที่ยวที่เกาะสมุยกัน

วิถีชิวิตของชาวเกาะสมุย การหาหอยเสียบ ซึ่งนำมาปรุงเป็นอาหารรสชาตเด็ด เป็นเมนูดั้งเดิมของชาวเกาะสมุย

พระอาทิตย์กำลังจะลับขอบฟ้า ทำให้เป็นช่วงที่ท้องฟ้ามีสีที่สวยงามมากๆค่ะ




เพลาที่พระอาทิตย์ลับขอบฟ้าไปแล้ว ช่างเป็นภาพที่น่าจดจำยิ่งนัก เป็นบรรยากาศที่แสนจะโรแมนติก แต่ในบางครั้งก็ดูเศร้าๆยังไงบอกไม่ถูก ภาพสวยๆเก็บมาฝากกันค่ะ ^^

งานวันลางสาด ของดีเมืองสมุย

เป็นประเพณีที่จัดขึ้นมาใหม่ โดยความริเริ่มของสุขาภิบาลอำเภอเกาะสมุย ปัจจุบันเป็น เทศบาลเมืองเกาะสมุย ร่วมกับสภาวัฒนธรรมอำเภอเกาะสมุยโดยมีวัตถุประสงค์เพื่ออนุรักษ์วัฒนธรรมประเพณี และส่งเสริมแนะนำของดีที่มีในสมุย อาทิ พีชผลทางการเกษตร งานจัดทำอาหาร งานจักสาน การกวนยาหนม การแสดงซึ่งเป็นภูมิปัญญาท้องถิ่น แนะนำสถานที่ท่องเที่ยว เริ่มจัดตั้งแต่ปี 2540

กำหนด วัน เดือน ปี ที่จัดในเดือนกันยายนของทุกปี เพราะเดือนกันยายน จะเป็นเืดือนที่ผลไม้เกือบทุกชนิดจะออกสู่ตลาด โดยเฉพาะ ลางสาด เงาะ มังคุด ทุเรียน ซึ่งปัจจุบันถือว่าเป็นพืชเศรษฐกิจของเกาะสมุย

ในงานนอกจากจะนำผลไม้ดังกล่าวมาตั้งโชว์ ในงานยังมีกิจกรรมอื่นๆอีกมาก อาทิ การทำอาหารของกลุ่มแม่บ้านของอำเภอเกาะสมุย ทุกตำบล การกินข้าวห่อ การแสดงวิถีชีวิตของชาวเกาะสมุย การออกร้านของหน่วยงานต่างๆทั้งของรัฐและเอกชน มีการแสดงของนักเรียนและกลุ่มแม่บ้าน การจัดแสดงศิลปะมวยไทย ใีวงดนตรี หนังตะลุงศิลปะภาคใต้ ฯลฯ อีกมากมาย

สิ่งที่มหัศจรรย์ของเกาะสมุย

ปัจจุบันชาวไทยและชาวต่างประเทศมีความพิศวงในสิ่งที่ไม่น่าจะเป็นไปได้ คือ ศพที่เสียชีวิตมาแล้วไม่น้อยกว่า 20 ปี และไม่เน่า ไม่เปื่อย คือ

• ศพหลวงพ่อแดง วัดคุณาราม มรณภาพมาแล้ว 35 ปี ร่างกายเป็นหิน ศพอยู่ในลักษณะนั่ง เป็นที่สนใจของคนไทยและชาวต่างประเทศมาก
• ศพพระครูวิมลทีปคุต (เริ่ม สมคะเน) วัดคีรีวงการาม ตำบลตลิ่งงาม มรณภาพมาแล้วประมาณ 36 ปี สภาพศพไม่เน่าเปื่อยเช่นกัน ศพอยู่ในลักษณะนั่ง แต่คนทั่วไปไม่ค่อยรู้ เพราะอยู่ไกลถนนใหญ่
• ศพหลวงพ่อพระครูสุวัฒน์ธรรมคุณ (วัฒน์ คงเพชร) วัดศรีทวีป ตำบลอ่างทอง ท่านมรณภาพมาแล้ว ประมาณ 19 ปี สภาพศพไม่เน่าไม่เปื่อยเช่นกัน สภาพศพอยู่ในลักษณะนอนในโลงแก้ว
• ยังมีสิ่งมหัศจรรย์ ซึ่งเป็นสถานที่อีกแห่งหนึ่ง คือ เกาะแตน (เกาะกะแต็น) อยู่ทางใต้ของเกาะสมุยเป็นหมู่บ้านหนึ่งของตำบลตลิ่งงาม เกาะแห่งนี้จะนำสุนัขไปเลี้ยงไม่ได้ ถ้าใครนำสุนัขขึ้นบนเกาะ สุนัขตัวนั้นจะวิ่งและส่งเสียงร้องคล้ายสุนัขบ้า และจะเสียชีวิตไปในที่สุด นักวิทยาศาสตร์เคยพิสูจน์ว่าเกิดมาจากอะไรก็ยังไม่มีข้อสรุป

ปัจจุบันเกาะแตนมีประชากรอาศัในท้องถิ่นอื่ยอยู่น้อย โดยจะอพยพไปทำมาหากินในท้องถิ่นอื่น เกาะแตนเป็นแหล่งดำน้ำของชาวต่างประเทศ เพราะมีปะการังที่สวยงามมาก มีเรือรับส่งผู้ไปเที่ยวเกาะแตนเป็นประจำ จากหมู่บ้านท้องกรูด ใช้เวลาในการนั่งเรือประมาณ 15 นาที

ประเพณีกินข้าวห่อของชาวสมุย

การประกอบอาชีพของชาวสมุยในสมัยโบราณ จะเป็นการทำนา ทำสวน ทำไร่ ซึ่งอยู่ไกลบ้านพักจะต้องนำอาหารไปรับประทานในตอนกลางวัน หรือแม้แต่การเดินทางไปทำธุระ หรือเยี่ยมญาติจากหมู่บ้านหนึ่งไปยังอีกหมู่บ้านหนึ่ง ซึ่งมีระยะทางไกลมาก ต้องข้ามเขา ข้ามห้วย หรือแม้แต่การเดินทางในทะเล โดยอาศัยเรือพาย เรือแจว หรือเรือใบจากอ่าวหนึ่งไปยังอีกอ่าวหนึ่ง ก็มีความจำเป็นที่จะต้องจัดอาหารไว้รับประทานระหว่างการเดินทาง เพราะสมัยก่อนถนนหนทางยังไม่มีอย่างปัจจุบัน ร้านอาหารก็ไม่มีอาหารที่จัดไว้เพื่อรับประทานในตอนกลางวัน เพื่อประกอบอาชีพ หรือเดินทางไกล เรียกว่า ข้าวห่อ ลักษณะของข้าวห่อ คือ นำข้าวสุกใส่ในใบตอง(ใบกล้วย) พร้อมด้วยกับข้าว ส่วนมากจะเป็นน้ำพริกแห้ง น้ำพริกมะขามสด ปลาเค็มทอดหรือปิ้ง บางครั้งก็มีอาหารแห้งอย่างอื่น เช่น ไข่เค็มต้ม ไข่เจียว ฯลฯ ชนิดแห้ง แล้วหากาบหมาก (ตอกหมาก) มารองอีกชั้นหนึ่ง เสร็จแล้วห่อเป็นรูปสี่เหลี่ยมกระทัดรัดนำติดตัวไป สถานที่กินข้าวห่อจะต้องเป็นสถานที่มีน้ำจืด มีบ่อน้ำ หรือลำธาร สรุปได้ว่าการกินข้าวห่อ คือการนำอาหารไปรับประทานนอกบ้าน

ต่อมาลักษณะของข้าวห่อได้รับการพัฒนาขึ้น คือ เมื่อชาวบ้านรู้จักนำใบเตย ใบตาล หรือใบมะพร้าว มาสานเป็นกระชุ(กระสอบ) มาเป็นภาชนะบรรจุข้าวห่อลักษณะของข้าวห่อก็เปลี่ยนแปลงไปบ้าง แต่จะสังเกตุเห็นว่าจะเป็นข้าวห่อด้วยกาบหมาก หรือกระชุ ก็จะมีใบตองมารองรับอาหารก่อน ทั้งนี้เป็นเพราะใบตองจะทำให้ข้าวสุกและกับข้าวมีรสหอม และเมื่อรับประทานเสร็จใบตองที่รองรับอาหารก็ทิ้งได้เลย ส่วนกระชุก็สามารถนำกลับไปใช้ในคราวต่อไปได้ การกินอาหารในสมัยก่อนนิยมใช้มือเปิปข้าวและกับข้าว นี่คือลักษณะของข้าวห่อและวิธีกินข้าวห่อของชาวสมุยในสมับโบราณ

ครั้นนานๆเข้าการกินข้าวห่อเริ่มเปลี่ยนแปลงมากขึ้น คือ จากการกินข้าวแค่เพียงคนเดียวหรือสองคนซึ่งเป็นบุคคลในครัวเรือน ก็จะขยายเป็นการกินข้าวห่อเป็นคณะเล็กๆ ภายในเครือญาติหรือแขกเหงื่อที่มาเยี่ยมเยียน ภาชนะที่บรรจุอาหารก็จะเป็นปิ่นโต อาหารที่จะเป็นอาหารแห้งก็จะเป็นอาหารคาวหวานชนิดต่างๆ ทั้งที่แห้งและมีน้ำ แถมยังมีอาหารหวาน ผลไม้ รวมไปด้วย สถานที่กินข้าวห่อก็มักนิยมกันที่ชายหาดริมทะเล หรือสถานที่ร่มรื่นริมแหล่งน้ำลำธาร โดยใช้เสื่อปูรองรับประทานอาหาร และผู้ร่วมรับประทาน

การกินข้าวห่อของชาวสมุยเริ่มจะมีชื่อเสียงโด่งดังมากขึ้น เมื่อมีการตัดทางสายรอบเกาะผ่านภูเขาจากบ้านละไมสู่บ้านเฉวง เมื่อปี พ.ศ.2511 สมัยนายดิลก สุทธิกลม เป็นนายอำเภอ ระยะทาง 3 กม. ใช้เวลาทำงาน 4 เดือนเต็มๆ โดยอาศัยแรงงานชาวบ้านละไม - เฉวง ตลอดเวลาปฏิบัติงานจะมีการเลี้ยงอาหารข้าวห่อแก่แรงงานชาวบ้านทุกๆวันเป็นประจำ

เมื่อถนนสายนี้พอที่ยานพาหนะสัญจรไปมาได้ทางฝ่ายบ้านเมืองก็เริ่มให้ความสนใจเกาะสมุยมากขึ้น และถือเป็นจุดเริ่มต้นของการพัฒนาสมุยทั้งในด้านคมนาคม การท่องเที่ยว

จึงพูดได้ว่าประเพณีกินข้าวห่อของชาวสมุย ก็สามารถสร้างสมุยให้เจริญได้เหมือนกัน จึงอยากขอร้องพี่น้องชาวสมุยว่า ขอให้ช่วยกันรักษาประเพณีกินข้าวห่อ ซึ่งเป็นวัฒนธรรมที่ดีงามและดียิ่งเอาไว้ให้คู่กับสมุยสืบไป...

วัฒนธรรมเกี่ยวกับโบราณสถาน:ที่อยู่อาศัย

วัฒนธรรมเกี่ยวกับที่อยู่อาศัยของชาวเกาะสมุย
ปัจจุบันการปลูกสร้างบ้านเรือนที่อยู่อาศัยนิยมสร้างแบบตะวันตกแบบแปลนวัสดุก่อสร้างราคาแพงมาก แต่ก็ยังมีบ้านที่ปลูกสร้างในสมัยก่อน ซึ่งมีอายุ 90 ปีขึ้นไปอยู่มากหลัง เหมาะแก่ผู้ที่สนใจในวัฒนธรรมที่อยู่อาศัยจะได้เยี่ยมชมเพื่อการศึกษาอยู่มากแห่ง เช่น

• บ้าน 150 ปี ของนายซี่ ฮั่นเจริญ อยู่บ้านทะเล หมู่ที่ 3 ตำบลหน้าเมือง
• บ้านอายุประมาณ 100 ปี ของท่านหมื่นวิจารณ์ (เที่ยง พูลสวัสดิ์) อดีตผู้ใหญ่บ้านพังกา อยู่ที่หมู่ที่ 4 ตำบลตลิ่งงาม ปัจจุบันอยู่ในความดูแลของจิบ พูลสวัสดิ์ ลูกสะใภ้
• บ้านอายุประมาณ 100 ปี ของขุนมะเร็ต (นายหมึก ไชยธวัช) อดีตกำนันตำบลมะเร็ต ต่อมาเป็นกรรมสิทธิ์ของพี่ชาย หลานชาย ซึ่งเป็นกำนัน เป็นผู้ใหญ่บ้าน ปัจจุบันนายทรงพล ศรีฟ้า ชั้นเหลน เป็นผู้ดูแล อยู่ติดถนนใหญ่ หมู่ที่ 1 ตำบลมะเร็ต
• เฉพาะบ้านโบราณ อายุระหว่าง 80-100 ปีจะมีอยู่เป็นจำนวนมาก และมีอยู่ทั่วๆไปของเกาะสมุย

แหล่งท่องเที่ยวด้านโบราณสถาน 2

เจดีย์แหลมสอ

องค์เก่าตั้งอยู่บนเขาสูงของแหลมสอ อยู่ใกล้ๆกับที่พำนักสงฆ์แหลมสอประมาณ 1 กิโลเมตร เจดีย์แห่งนี้สร้างตามแบบศรีลังกา โดยพระครูวิบูลยธรรมสาร (หลวงพ่อเพชรวาจาสิทธิ์ เจ้าคณะแขวงรูปแรกของสมุย และเป็นอาจารย์ของหลวงพ่อแดง) ประมาณ 134 ปีมาแล้ว ท่านได้เดินทางไปนมัสการสังเวชนียสถาน ณ ประเทศอินเดีย ตอนกลับได้ไปดูการศาสนาที่ประเทศศรีลังกา ซึ่งสมัยนั้นพระพุทธศาสนาเจริญรุ่งเรืองมาก เมื่อกลับมาก็ได้สร้างพระเจดีย์องค์นี้ขึ้นตามแบบของศรีลังกา ปัจจุบันชำรุดหักพัง ทางสภาวัฒธรรมอำเภอเกาะสมุยได้ติดต่อ ประสานไปยังผู้อำนวยการกองแผนงานกรมศิลปากร ได้ประสานไปยังสำนักงบประมาณ เพื่อขอเงินมาบูรณะซ่อมแซมต่อไป ที่ตั้งของเจดีย์องค์นี้ เมื่อขึ้นไปยังองค์เจดีย์ ทางด้านใต้จะมองเห็นเกาะแตน เกาะราบ และแผ่นดินใหญ่ ทิศเหนือจะมองเห็นหมู่เกาะอ่างทอง เกาะพลวย ทิศตะวันตกจะมองเห็นอ่าวไทย แหลมพลายดำของอำเภอสิชล จังหวัดนครศรีธรรมราช

เจดีย์แหลมสอองค์ใหม่

หรือเรียกว่า เจดีย์ติสโส นฤมิตร ตั้งอยู่ริมทะเลด้านทิศใต้ของเกาะ ณ ที่พำนักสงฆ์พุทธเจดีย์ หลวงพ่อแดง (แดงเฒ่า) เป็นผู้สร้าง ตามแบบศรีวิชัยไชยา และที่พำนักสงฆ์แห่งนี้ยังมีเรือลำใหญ๋สร้างบนเนินเขา เทพคุณ โครงสร้างด้วบปูนซีเมนต์ บรรจุน้ำได้ประมาณเจ็ดแสนลิตร สร้างโดย พระครูถิรบุญญากร (ท่านสถิตย์) ให้ชื่อว่า ติสโสนาวานุสาวรีย์ เพื่อเป็นอนุสรณ์แก่พ่อหลวงแดง เพราะท่านชอบเรือมาก

แหล่งท่องเที่ยวด้านโบราณสถาน

พุทธบาท 4 รอยจำลอง

เป็นแหล่งท่องเที่ยวด้านโบราณสถาน ซึ่งตั้งอยู่ไหล่เขาที่สำนักสงฆ์เขาเล่ หมู่ที่ 3ตำบลหน้าเมือง ใกล้พรุน้ำตกหน้าเมือง และสถานีวิทยุ (ส.ว.ท.) เกาะสมุย อยู่สูงจากพื้นราบประมาณ 21 วา มีบันไดขึ้นประมาณ 96 ขั้น สร้างสมัยใด ใครเป็นคนสร้างไม่ปรากฏหลักฐานแน่ชัด ตัวอาคารตั้งอยู่บนก้อนหินใหญ่ ต่อมาหลวงพ่อแดง ติสโส (พ่อหลวงแดงเฒ่า)พระเกจิอาจารย์ชื่อดังของเกาะสมุย ได้บูรณะซ่อมแซมตัวอาคาร หลังคาเป็นทรงปั้นหยา มุ้งกระเบื้องว่าว เมื่อขึ้นไปถึงองค์พระบาทจะมองเห็นทิวทัศน์ สวยงามมาก สถานที่แห่งนี้พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเคยเสด็จมานมัสการพระพุทธบาท หลังจากที่พระองค์เสด็จเยี่ยมชมวัดสำเร็จแล้ว สมัยก่อนจะมีการทำบุญ เรียกว่างานนมัสการพระพุทธบาทเขาเล่ เป็นงานใหญ่อันดับหนึ่งของเกาะสมุย มีการจัดงาน 3 วัน 3 คืน มีมหรสพชั้นดีของปักษ์ใต้ไปแสดงในงาน งาานจะมีในเดือนเมษายน ตรงกับวันขึ้น 13 ค่ำ เดือน 5 ของทุกปี และปัจจุบันการนมัสการพระพุทธบาทไม่ค่อยมีเหมือนสมัยก่อน จะมีการทำบุญตักบาตร มีการเจริญพระพุทธมนต์และปาฐกถาธรรม จากพระเถระผู้ทรงคุณวุฒิเพียง 1วัน เท่านั้น น่าเสียดายว่าประเพณีเก่าๆ จะหมดไป

วัฒนธรรม ประเพณีเก่าแก่ของสมุย

ประเพณีลอยเคราะห์
ประเพณีลอยเคราะห์ เป็นพิธีกรรมอย่างหนึ่งของชาวไทยทางภาคใต้ ซึ่งอยู่ติดกับทะเล โดยนำแบบอย่างของชาวฮินดูในประเทศอินเดียในสมัยพุทธกาลมาใช้ ซึ้งนั้นก็คือ พิธีล้างบาป ของศาสนาพราหมณ์

ตามหลักฐานการเข้าสู่เมืองไทยของศาสนาพุทธ บอกว่าศาสนาพุทธเข้าสู่เมืองไทยทางตอนใต้ของประเทศ นั้นคือเมืองนครศรีธรรมราชซึ่งในสมัยนั้นเรียกว่าเมือง ตามะลิงค์ หรือ ตามพรลิงค์ เป็นเมืองที่พุทธศาสนาเจริญรุ่งเรืองยิ่งเป็นแห่งแรก โดยที่ศาสนาพุทธเดิมเกิดจากประเทศอินเดีย ฉะนั้นเมื่อศาสนาพุทธเข้าสู่ประเทศไทย ก็นำเอาอารยธรรมต่างๆ ของอินเดียเข้ามาด้วยโดยเฉพาะศาสนาพราหมณ์ โดยที่เราไม่ทรายว่าอารยธรรมอันไหนเป็นของพุทธ อันไหนเป็นของพราหมณ์ เช่น พิธีโกนจุก แต่งงาน ขึ้นบ้านใหม่ พิธีศพ การไหว้พระภูมิเจ้าที่ ฯลฯ

คำว่าเคราะห์ (พราหมณ์) ตรงกับพุทธว่า อุปัทวะ คือสิ่งที่คอยทำให้ขัดข้อง ขุ่นมัว มัวหมอง เลวร้าย

การลอยเคราะห์ ก็คือ การนำสิ่งไม่ดีทั้งหลายทั้งปวง ออกจากร่างกาย ครอบครัว หมู่บ้าน

ชาวสมุยได้นำพิธีกรรมนี้มาจากนครศรีธรรมราช ซึ่งเป็นของพรหมณ์ที่ปะปนมากับศาสนาพุทธ ในตอนที่ษสสนาพุทธเข้าสู่ประเทศ โดยเหตุที่เดิมสมุยขึ้นกับเมืองนครศรีธรรมราช ประเพณีวัฒนธรรมต่างๆจึงหลั่งไหลเข้าสู่ไปสู่เกาะสมุยด้วย

พิธีลอยเคราะห์ของชาวสมุย สมัยก่อนนิยมประกอบพิธีในเดือนเมษายน หรือพฤษภาคม เพราะเป็นฤดูแล้ง สถานที่ประกอบพิธีส่วนมากจะเป็นสถานที่ใกล้ๆชายทะเล ทุกแห่งจะปลุกศาลา ไว้ 1 หลัง เรียกว่า ศาลพ่อตา คือที่ประทับของเทวดาผู้คุ้มครองหมู่บ้านให้อยู่เย็นเป็นสุข

ปัจจุบัน พิธีทำบุญหน้าบ้านยังมีอยู่ แต่พิธีลอยเคราะห์ เกือบจะหมดไปจะมีก็แต่ที่ ตำบลแม่น้ำ ซึ่งเป็นเพียงหมู่บ้านเท่านั้น เป็นที่น่าเสียดายว่าพิธีนี้จะหมดไปจากแผ่นดินสมุย จึงควรที่จะทำการฟื้นฟูเพื่อสืบสานวัฒนธรรมที่ดีงาม ที่บรรพบุรุษเคยปฏิบัติสืบต่อกันมาให้คงอยู่ต่อไป
หมายเหตุ การทำบุญหน้าบ้านหรือทำบุญศาลาพ่อตา นิยมประกอบประกอบพิธีในวันเสาร์หรือวันอังคาร

PR: wait... I: wait... L: wait... LD: wait... I: wait... wait... Rank: wait... Traffic: wait... Price: wait... C: wait...

การเดินทางไปเกาะสมุย

"เกาะสมุย" สวรรค์กลางอ่าวไทย ที่มีเสน่ห์เฉพาะตัว ชายหาดที่ทอดยาวขนานไปกับทะเล มีต้นมะพร้าวเรียงรายริมชายหาด และน้ำทะเลใสสีสวย แค่นี้ก็ทำให้หลายๆคนถึงขั้นต้องเก็บกระเป๋าเดินทาง ไปเที่ยวเกาะสมุยกัน แต่ก่อนออกเดินทางมาหาข้อมูลการเดินทางกันก่อนคะ จะได้ไปหลงทางไงคะ เหอๆ การเดินทางไปเกาะสมุยก็มีให้เลือกหลายเส้นทางเหมือนกันคะ แล้วแต่จะสะดวก อย่างแรกเลย

1. ทางรถไฟ จะมีรถไฟออกจากหัวลำโพงทุกวัน ลงรถที่สถานีรถไฟอำเภอพุนพิน แล้วนั่งรถโดยสารประจำทางมาลงที่อำเภอเมือง หรือเรียกว่า บ้านดอน ที่ศาลหลักเมืองจังหวัดสุราษฏร์ธานี จะมีทัวร์ไปเกาะสมุยทุกวัน
2. รถโดยสารประจำทางปรับอากาศ จะเดินทางมาถึงเกาะสมุยโดยตรง ซื้อตั๋ว กรุงเทพฯ-เกาะสมุย มีหลายทัวร์ให้เลือกคะ หาซื้อตั๋วได้ที่ สายใต้ใหม่ การเดินทางรวมๆแล้วประมาณ 14 ชั่วโมงได้คะ
3. สำหรับคนที่ต้องการความรวดเร็วในการเดินทาง ไม่อยากนั่งรถ นั่งเรือ ก็ต้อง เครื่องบินเลยคะ มีสายการบินเดียวที่เกาะสมุยคือ บางกอกแอร์แวย์ ให้บริการเที่ยวบิน ไป -กลับ กรุงเทพฯ-เกาะสมุย ทุกวันคะ ยกเว้นวันที่พายุเข้าอ่ะน่ะ เวลาในการเดินทางก็ประมาณ 1 ชั่วโมง 15 นาที

ในการเดินทาง ข้อ 1 กับ 2 ต้องมาขึ้นเรือที่ท่าเรือดอนสัก จะมีเรือเฟอร์รี่ 2 บริษัท ให้เลือกใช้บริการ คือ ราชาเฟอร์รี่ กับ ซีทรานต์เฟอร์รี่ ให้บริการทุกวัน วันละ 7 เที่ยว ใช้เวลาในการเดินทาง ประมาณ 1 ชั่วโมง 30 นาที ได้ ถ้ามากับราชาเฟอร์รี่เรือจะมาจอดที่ท่าเทียบเรือลิปะน้อย ถ้าของซีทรานต์เฟอร์รี่จะมาจอดที่ท่าเทียบเรือหน้าทอนเลย

นอกจากนี้แล้วยังมีเรือนอนให้บริการด้วย ซื้อตั๋วได้ที่ท่าเทียบเรือบ้านดอน อยู่ริมน้ำตาปี จะออกวันละ 1 เที่ยว คือตอน 23.00 นาฬิกา ถึงเกาะสมุยก็ประมาณ ตี 5 ตอนเช้า

อีกทางหนึ่งก็คือ เรือด่วน คะ ออกจากท่าเรือสุราษฏร์ธานี บ้านดอน ไปยังท่าเรือหน้าทอน วันละ 1 เที่ยว ออกเวลา 8 โมงเช้า ใช้เวลาในการเดินทางประมาณ 2 ชั่วโมง 30 นาที คะ

สะดวกแบบไหนก็เลือกใช้บริการกันเลยคะ ซึ่งสามารถที่จะหารายละเอียดได้เพิ่มเติมจากที่

สำนักงาน ททท. สุราษฏร์ธานี โทร 077-288818-9

ศูนย์ประสานงานการท่องเที่ยวเกาะสมุย โทร 077-420720-2

สถานีเดินรถประจำทาง โทร 077-200032

สถานีรถไฟสุราษฏร์ธานี โทร 077-311213

สนามบินสุราษฏร์ธานี โทร 077-441230

สนามบินเกาะสมุย โทร 077-425011

มาฟังเพลง เกาะ สมุย deep o sea

สถานที่ท่องเที่ยวบนเกาะสมุย

ด้วยเสน่ห์ความงามที่เป็นเอกลักษณ์ทำให้เกาะสมุยได้พัฒนาเป็นแหล่งท่องเที่ยวแห่งหนึ่งที่มีรูปแบบผสมผสานกันไปในหลายด้าน ไม่ว่าจะเป็นความเจริญเติบโตเชิงธุรกิจท่องเที่ยว การรักษาความเป็นธรรมชาติของเกาะ ผู้คนมากมายจะมาชื่นชมแหล่งธรรมชาติ ท่ามกลางดงมะพร้าว ทะเลสีคราม หาดทรายขาว ซึ่งบนเกาะเล็กๆแห่งนี้ มีสถานที่ท่องเที่ยวที่เป็นธรรมชาติที่น่าสนใจหลายที่ ตามไปดูกันคะ ว่างามแค่ไหน

หินตาหินยาย อยู่ที่แหลมละไม หมู่ที่ 3 ตำบลมะเร็ต

รอยตีนตาเคง อยู่ใกล้สำนักสงฆ์ศิลางู ทางด้านทิศตะวันออก มีทั้งรอยตีนและรอยแห

หาดละไม ตั้งอยู่ที่อ่าวละไม บ้านละไม ตำบลมะเร็ต

หาดเฉวง ตั้งอยู่ที่อ่าวเฉวง บ้านเฉวง ตำบลบ่อผุด

หาดแม่น้ำ ตั้งอยู่ที่บ้านแม่น้ำ ตำบลแม่น้ำ

แหลมทราย ตั้งอยู่ที่ตำบลบ่อผุด

หาดลิปะน้อย ตำบลลิปะน้อย

หมู่เกาะอ่างทอง ตำบลอ่างทอง หมู่เกาะแห่งนี้มีชื่อเสียงโดงดังไปทั่วโลก มีทิวทัศน์สวยงาม มีเรือโดยสารนำไปเยี่ยมชมตลอด

น้ำตกหินลาด อยู่ใกล้กับตัวอำเภอ อยู่ห่างจากสี่แยกโรงพยาบาลประมาณ 1 กิโลเมตร บริเวณใกล้ๆมีวัดน้ำตกหินลาด ซึ่งเป็นสถานที่ปฏิบัติธรรมของชาวพุทธ สถานที่รื่นรม น่าเยี่ยมชมคะ ใกล้ๆกันมีที่ทำงานของประปาส่วนภูมิภาคตั้งอยู่ด้วย

น้ำตกหน้าเมือง (ผาหลวง) ตำบลหน้าเมืองเป็นสถานที่รื่นรม ปัจจุบันมีร้านขายของที่ระลึกมากร้าน ระยะจากถนนใหญ่เป็นคอนกรีต ประมาณ 1 กิโลเมตรครึ่ง น้ำตกแห่งนี้พระมหากษัตริย์และเจ้านายในราชวงศ์จักรีเคยเสด็จประพาสมาแล้วหลายพระองค์ โดยทราบจากพระปรมาภิไธย และพระนามาภิไธยย่อซึ่งจารึกไว้ที่ก้อนหิน มี จ.ป.ร. ป.ป.ร. ส.ว. ภ.ป.ร. ร.พ. ซึ่งหมายถึงรัชกาลที่ 5 รัชกาลที่ 7 กรมพระนครสวรรค์วรพินิจ รัชกาลที่ 9 สมเด็จพระนางเจ้ารำไพพรรณีแห่งรัชกาลที่ 7 ซึ่งผู้เขียนคือ นายเพื่อม เพชรหับ ได้ไปแกะสลักหินบริเวณอ่างน้ำตก

ที่ตั้งของ เกาะสมุย

เกาะสมุยเป็นหมู่เกาะที่ตั้งอยู่บนไหล่ทวีป อยู่ตอนกลางของอ่าวไทยนอกชายฝั่งทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือของจังหวัดสุราษฎร์ธานีประมาณ 84 กิโลเมตร ห่างจากแผ่นดินใหญ่ประมาณ 20 กิโลเมตร และห่างจากกรุงเทพมหานคร 750 กิโลเมตร ด้วยพื้นที่เฉพาะเกาะราว 227 ตารางกิโลเมตร กว้าง 21 กิโลเมตร ยาว 25 กิโลเมตร เกาะสมุย จึงมีขนาดใหญ่เป็นอันดับสามของประเทศ รองจากเกาะภูเก็ตและเกาะช้างแต่เนื่องจากเกาะสมุยมีสภาพเป็นเกาะล้อมรอบด้วยผืนน้ำของอ่าวไทยจึงมีอาณาเขตติดต่อกับทะเลในเขตอำเภอใกล้เคียง ดังนี้
ทิศเหนือ ติดต่อทะเลเขต อ.เกาะพงัน จ.สุราษฎร์ธานี อ.เกาะพงัน เป็นผืนดินที่อยู่ใกล้เกาะสมุยมากที่สุดราว 15 กม.
ทิศใต้ ติดต่อทะเลเขต อ.ขนอม จ.นครศรีธรรมราช อยู่ห่างเกาะสมุย 40 กม.
ทิศตะวันออก ติดต่อทะเลอ่าวไทย
ทิศตะวันตก ติดต่อทะเลเขต อ.ดอนสัก อ.กาญจนดิษฐ์ อ.เมือง อ.ท่าฉาง และ
อ.ไชยา จ.สุราษฎร์ธานี

PR: wait... I: wait... L: wait... LD: wait... I: wait... wait... Rank: wait... Traffic: wait... Price: wait... C: wait...